เช็คสภาพรถ

หากว่ากันด้วยเรื่องของการเดินทางไกลนั้น สิ่งที่ต้องเตรียให้พร้อมนั้นมีอยู่มากมายเลยหล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวขนขับเอง สัมภาระจำเป็นต่างๆ หรือแม้กระทั้ง “สภาพรถยนต์”ที่ต้องพร้อมใช้งานอย่างที่สุด เพือความปลอดภัยในการเดินทางครับ วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับการ “เช็คสภาพรถอย่างไร ก่อนไปเที่ยวไกลๆ” กันครับ จะต้องเช็คอะไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยยย!!!

เราต้องเช็คสภาพรถด้านใดบ้าง?

เช็คระบบไฟส่องสว่าง สามารถตรวจสอบได้โดยการเปิดไฟทุกดวงเพื่อดูว่าทำงานปกติหรือไม่ หากพบว่ามีหลอดไหนไม่ทำงานควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คทันทีครับ

เช็คน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก นับเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้ ยิ่งเวลาขับรถตอนฝนตกหนัก ถนนลื่น การควบคุมรถจะยากกว่าปกติ ควรตรวจเช็กระดับน้ำมันเบรก และน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทางที่ดีควรมีน้ำมันเครื่องสำรองติดรถไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน และอย่าลืมเช็กน้ำมันเบรก ผ้าเบรกรวมถึงระบบเบรกว่ามีความผิดปกติหรือไม่  หากน้ำมันเบรกลดลงต่ำกว่าระดับ Min หรือมีการลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดการรั่วในระบบเบรก ควรนำรถเข้าตรวจเช็กโดยช่างผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย

เช็คเบรคและที่ปัดน้ำฝน จะช่วยให้คุณรู้ว่าถึงเวลาที่คุณจะต้องเปลี่ยนผ้าเบรคแล้วหรือยัง ซึ่งควรจะตรวจเช็คในทุกๆปี 3 และทำการเช็คที่ปัดน้ำฝน แม้ว่าคุณจะไม่ค่อยได้ใช้งานที่ปัดน้ำฝนประจำแต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะที่ปัดน้ำฝนมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุช่วงหน้าฝนควรตรวจเช็คให้ดีก่อนครับ

เช็คน้ำกลั่นแบตเตอร์รี่ ควรจะอยู่ในตำแหน่ง UPPER/ LEVEL หากเติมมากเกินไปจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง หรืออาจจะกระเด็นออกไปโดนชิ้นส่วนต่างๆในห้องเครื่องยนต์จนกัดกร่อนได้

เช็คยางรถยนต์ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่คนมีรถต้องตรวจสอบเลยก็ว่าได้ นั่นคือการเช็คสภาพลมยางของรถทุกเส้น ก่อนที่จะเติมลมยางให้ได้มาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ ที่สำคัญควรเติมลมยางสำหรับยางอะไหล่เผื่อเอาไว้ในกรณีฉุกเฉินด้วย นอกจากนี้ควรเช็กอายุของยางทุกเส้น เพราะหากยางหมดอายุอาจส่งผลต่อระบบเบรกซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ประกันรถยนต์จำเป็นหรือไม่?

เพราะประกันรถยนต์ภาคสมัครใจถือเป็นความคุ้มครองเพิ่มเติม ที่จะมาอุดรอยรั่วของประกันรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.รถยนต์ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุใหญ่โตขึ้นมา แล้วไม่มีเงินชดใช้ค่าเสียหายจะได้ ดังนั้นควรมีประกันเอาไว้สักหน่อยจะดีกว่านั้นเองครับ

นอกจากเช็คสภาพรถก่อนเดินทางแล้ว เราต้องเตรียมอะไรบ้าง?

●เตรียมร่างกายให้พร้อม ก่อนจะออกเดินทาง ผู้ที่ขับรถควรจะเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่กินยาที่อาจก่อให้เกิดอาการง่วง และหากขับรถทางไกลมากๆ ควรหาจุดพักเป็นระยะๆ หรือหาคนสลับสับเปลี่ยนกันขับ เพราะถ้าใครเคยขับรถทางไกล น่าจะพอทราบอยู่แล้วว่าจะเกิดอาการล้า หรือเพลียแดดได้ ในบางประเทศถึงกับมีข้อบังคับทางกฎหมายว่า คน 1 คนไม่สามารถขับรถติดต่อกันได้นานเกิน 4 ชม. และจะถูกบังคับให้พักหรือเปลี่ยนคนขับ

●ศึกษาเส้นทาง เช็คสภาพการจราจร เนื่องจากในทุกปีช่วงหยุดยาว จะมีคนเดินทางเป็นจำนวนมากทำให้การจราจรหนาแน่น การที่เราตรวจดูเส้นทางก่อน จะทำให้เราสามารถหาเส้นทางที่เลี่ยงคนเยอะได้ และเมื่อวางแผนตัดสินใจว่าจะใช้เส้นทางไหนแล้ว อย่าลืมดูว่าบริเวณไหนมีปั๊ม ห้องน้ำ จุดพักรถ หรือทางโค้งทางชันบ้าง เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ และถึงที่หมายได้ตามที่ต้องการ

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับการ “เช็คสภาพรถอย่างไร ก่อนไปเที่ยวไกลๆ” ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ ท่านกันนะครับ หวังว่าจะชอบกันครับ